ความต่างของ AC Charger และ DC Charger
     สำหรับคุณลูกค้าที่กำลังตัดสินใจเลือกใช้รถไฟฟ้า ลองมาทำความรู้จักกับความแตกต่างระหว่าง AC Charger และ DC Charger เพื่อให้คุณเตรียมความพร้อมในการชาร์จพลังงานให้กับรถได้อย่างเหมาะสม

     ปัจจุบันการชาร์จรถไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ได้แก่ AC Charger (Normal Charge) และ DC Charger (Fast Charge) ซึ่งทั้งสองแบบมีความแตกต่างในด้านการใช้กระแสไฟฟ้าและระยะเวลาในการชาร์จ

1. AC Charger (Normal Charge)
การชาร์จแบบ AC Charger ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) โดยกระแสไฟจะไหลสลับทิศทางไปมาและต้องผ่านกระบวนการแปลงไฟจาก On Board Charger ของรถยนต์ เพื่อแปลงเป็นกระแสตรง (DC) ก่อนเข้าสู่แบตเตอรี่ของรถยนต์ การชาร์จแบบนี้จะใช้เวลานาน โดยสามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ใช้เวลาประมาณ 4 ถึง 7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่รถยนต์ เนื่องจากการชาร์จใช้เวลานาน AC Charger จึงเหมาะสำหรับการติดตั้งที่บ้าน โดยมีกำลังไฟเฉลี่ยที่ 3-22 กิโลวัตต์ และสามารถชาร์จข้ามคืนได้ การติดตั้งสถานีชาร์จที่บ้านจำเป็นต้องใช้มิเตอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดไม่ต่ำกว่า 30(100)A

2. DC Charger (Fast Charge)
การชาร์จแบบ DC Charger ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ซึ่งสามารถส่งกระแสไฟตรงสู่แบตเตอรี่ของรถยนต์ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการแปลงจาก On Board Charger ทำให้การชาร์จเร็วกว่า โดยสามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่
     การชาร์จแบบ DC Charger เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องการชาร์จอย่างเร่งด่วน โดยจะพบได้ตามสถานีชาร์จที่เปิดให้บริการ แต่เครื่องชาร์จแบบ DC มีราคาสูงกว่าและค่าบริการก็จะสูงกว่าการชาร์จแบบ AC

     สนใจทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถไฟฟ้า มาพูดคุยกับเราที่ "Kia รัชดา-ลาดพร้าว" ที่ปรึกษาการขายประจำโชว์รูมยินดีให้คำแนะนำ และช่วยคุณเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจ

Kia Ratchada-Ladprao
"เกีย รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว" ยินดีให้บริการ
ฝ่ายขายเปิดบริการทุกวัน ติดต่อ โทร. 02-048-8883
ศูนย์บริการเปิด จันทร์-เสาร์ ติดต่อ โทร. 02-048-8883